นางสมพร สมผดุง
หัวหน้าสำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดเลย
เปิดเผยว่า สำนักงาน ป.ป.ช.
ประจำจังหวัดเลยได้เปิดรับสมัครผู้ประสงค์จะเข้ารับการสรรหาเป็นกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประจำจังหวัด (กรรมการ ป.ป.จ.) ตั้งแต่วันที่
28 ตุลาคม – 5 พฤศจิกายน 2556 ไม่เว้นวันหยุดราชการ
สมัครได้ที่สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดเลย
ผู้มีสิทธิสมัครเข้ารับการสรรหาเป็นกรรมการ
ป.ป.จ. ต้องเป็นผู้มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ มีความรู้ความสามารถและมีผลงานเป็นที่ยอมรับในด้านการป้องกันและปราบปรามการทุจริต
มีสัญชาติไทย อายุไม่ต่ำกว่าสี่สิบห้าปีบริบูรณ์
รับหรือเคยรับราชการในระดับไม่ต่ำกว่าผู้อำนวยการกองหรือเทียบเท่า
หรือเป็นผู้ทรงคุณวุฒิที่มีความรู้และประสบการณ์หรือมีผลงานเป็นที่ยอมรับในลักษณะที่เป็นประโยชน์ต่อการส่งเสริมการป้องกันและปราบปรามการทุจริต
หรือเป็นผู้ซึ่งองค์การพัฒนาเอกชนหรือองค์กรวิชาชีพที่มีกฎหมายรับรองและปฏิบัติงานมาอย่างต่อเนื่องเป็นเวลาไม่น้อยกว่าสิบปีโดยองค์การพัฒนาเอกชนหรือองค์กรวิชาชีพให้การรับรอง
โดยไม่มีลักษณะต้องห้าม ประกอบด้วย ไม่เป็นบุคคลวิกลจริตหรือจิตฟั่นเฟือนไม่สมประกอบ ต้องคุมขังอยู่โดยหมายของศาลหรือโดยคำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมาย
ติดยาเสพติดให้โทษ เป็นบุคคลล้มละลาย หรือเคยเป็นบุคคลล้มละลายทุจริต ต้องคำพิพากษาให้จำคุก
แม้ว่าคดีนั้นจะยังไม่ถึงที่สุดหรือมีการรอการลงโทษหรือเคยได้รับโทษจำคุกโดยคำพิพากษาอันถึงที่สุดให้จำคุก
เว้นแต่ในความผิดที่ได้กระทำ โดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ
หรือความผิดฐานหมิ่นประมาท เคยถูกไล่ออก ปลดออก หรือให้ออกจากราชการ หน่วยงานของรัฐ
หรือรัฐวิสาหกิจ เคยต้องคำพิพากษาหรือคำสั่งของศาลให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดินเพราะร่ำรวยผิดปกติหรือมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นผิดปกติ และเคยถูกถอดถอนออกจากตำแหน่งไม่ว่าด้วยเหตุใด
นางสมพร สมผดุง |
ทั้งนี้ คณะกรรมการ ป.ป.จ. มีหน้าที่ส่งเสริมการป้องกันและปราบปรามการทุจริต
โดยการประสานความร่วมมือกับประชาชนและส่วนราชการเพื่อเผยแพร่ความรู้ให้ประชาชนในทุกระดับได้ตระหนักถึงผลกระทบจากการทุจริต
โดยดำเนินการเพื่อป้องกันการทุจริตและเสริมสร้างทัศนคติและค่านิยมเกี่ยวกับความซื่อสัตย์สุจริต รวมทั้งดำเนินการให้ประชาชนหรือกลุ่มบุคคลในทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมในการป้องกันและปราบปรามการทุจริต , พิจารณาเสนอมาตรการ ความเห็น
หรือข้อเสนอแนะต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. เพื่อประโยชน์ในการป้องกันและปราบปรามการทุจริต
, ตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องกล่าวหาเจ้าหน้าที่ของรัฐและรวบรวมพยานหลักฐานเสนอคณะกรรมการ
ป.ป.ช. , ตรวจสอบความถูกต้องและความมีอยู่จริง
รวมทั้งความเปลี่ยนแปลงของทรัพย์สิน และหนี้สินตามบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบที่ยื่นต่อคณะกรรมการ
ป.ป.ช. และปฏิบัติหน้าที่อื่นตามที่คณะกรรมการ
ป.ป.ช. มอบหมาย
นางสมพรกล่าวอีกว่า
หลังจากรับสมัครแล้วกรรมการสรรหาจะคัดเลือกผู้สมัครที่มีคุณสมบัติครบถ้วนที่ตามกฎหมายกำหนดจำนวน 6 คน แล้วส่งรายชื่อให้กรรมการ ป.ป.ช.พิจารณาคัดเลือกให้เหลือ 3 คน ซึ่งกระบวนการ
วิธีการตรวจสอบคุณสมบัติได้ดำเนินการเข้มข้น ไม่มีประวัติด่างพร้อย
หรือมีพฤติกรรมที่ขัดกับตำแหน่งหน้าที่อย่างแน่นอน กรรมการ
ป.ป.จ.ที่เข้ามารับหน้าที่นี้จะต้องทำงานเต็มเวลา ไม่เป็นข้าราชการ
หรือผู้ที่ทำธุรกิจอื่นๆ ดำรงตำแหน่งได้วาระเดียว เป็นเวลา 4 ปี ประชาชนที่ต้องการมีส่วนร่วม
สามารถส่งคำร้องคัดค้านผู้ผ่านการคัดเลือกได้ หากพบว่าบุคคลนั้นๆ
มีประวัติเกี่ยวข้องกับการทุจริต หรือมีพฤติกรรมไม่เหมาะสม ทางคณะกรรมการ
ป.ป.ช.จะนำไปพิจารณาด้วย นายใจเด็ดกล่าว
สำหรับสิทธิประโยชน์ในการเป็นคณะกรรมการ
ป.ป.จ. ประกอบด้วย ค่าตอบแทนรายเดือน ในตำแหน่งประธานกรรมการ ป.ป.จ. เดือนละ 57,650 บาท ตำแหน่งกรรมการ
ป.ป.จ. เดือนละ 47,240 บาท , บำเหน็จตอบแทน , การประกันสุขภาพ , ประโยชน์ตอบแทนอื่นตามที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. กำหนด และมีสิทธิได้รับการเสนอชื่อเพื่อขอรับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงาน
ป.ป.ช. ประจำจังหวัดเลย โทร. 0 4281 4508
- 9 โทรสาร 0 4281 4508 E-mail : area64_nac@nacc.go.th
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น