เครื่องบินแบบ ATR -72 ขนาด 70 ที่นั่ง |
สายการบินนกแอร์เพิ่มเที่ยวบินระหว่างเลย-ดอนเมือง เป็นวันละ 2 เที่ยว
รองรับจำนวนผู้โดยสารที่จะเดินทางในช่วงหน้าหนาว ผอ.ท่าอากาศยานเลยมั่นใจ
เที่ยวบินไม่มีลด พร้อมชักชวนสายการบินเอกชนเปิดเส้นทางบินตรงเลย-หลวงพระบาง
เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 2556 นายธีรวัฒน์
ตั้งทิพย์รักษ์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานเลย เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2556 สายการบินนกแอร์ได้แจ้งเพิ่มเที่ยวบินระหว่าง จ.เลย-ท่าอากาศยานดอนเมือง
อีก 1 เที่ยว จากเดิมที่มีวันละ 1 เที่ยว
เพื่อรองรับจำนวนผู้โดยสารที่จะเดินทางเข้ามาในจังหวัดเลยช่วงหน้าหนาวนี้ โดยจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 27 ตุลาคม 2556 ถึง วันที่ 29 มีนาคม 2557 ซึ่งตารางบิน เที่ยวแรกออกจากท่าอากาศยานดอนเมืองเวลา 07.00 น. ถึงท่าอากาศยานเลยเวลา 08.20 น. และออกจากท่าอากาศยานเลยเวลา 08.50 น. ถึงท่าอากาศยานดอนเมืองเวลา 10.10 น. ส่วนรอบบ่าย ออกจากท่าอากาศยานดอนเมืองเวลา 14.00 น. ถึงท่าอากาศยานเลย เวลา 15.20 น. และออกจากท่าอากาศยานเลย เวลา 15.50 น. ถึงท่าอากาศยานดอนเมืองเวลา 17.10 น. โดยใช้เครื่องบินแบบ ATR -72 ขนาด 70 ที่นั่ง
ซึ่งจากเดิมนกแอร์ใช้เครื่อง SAAB 340 ขนาด 34
ที่นั่ง ไม่เพียงพอต่อจำนวนผู้โดยสาร โดยได้เริ่มนำเครื่องบินขนาด 70 ที่นั่งมาให้บริการตั้งแต่เดือนกันยายน 2555
นายธีรวัฒน์ ตั้งทิพย์รักษ์ |
ผู้อำนวยการท่าอากาศยานเลย กล่าวอีกว่า
หลังจากผ่านช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวของจังหวัดเลย ตนมั่นใจว่านกแอร์จะไม่ลดเที่ยวบินลงกลับไปเหลือ
1 เที่ยวเช่นเดิมแน่นอน
เพราะจากสถิตจำนวนผู้โดยสารเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง อาจจะเพิ่มมากกว่าละสองเที่ยวด้วยซ้ำ
ซึ่งทางนกแอร์พร้อมที่จะเปิดเที่ยวบินเพิ่มอยู่แล้ว แต่ยังติดปัญหาโรงแรมที่พักต่างๆในตัวจังหวัดมีไม่เพียงพอสำหรับรองรับลูกเรือจำนวนครั้งละประมาณ
20 คน
ด้านนายวสันต์ แก้วศิริบัณฑิต ประธานหอการค้า จ.เลย กล่าวว่า
เป็นเรื่องที่น่ายินดี ที่นกแอร์เปิดเที่ยวบินเพิ่ม
เพราะจะเป็นการอำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยว นักธุรกิจ และประชาชนทั่วไป
ได้เดินทางระหว่างกรุงเทพฯกับ จ.เลยได้รวดเร็วขึ้น
ซึ่งจะส่งผลดีต่อการ
ขยายตัวทางเศรษฐกิจของจังหวัดด้วย ซึ่งจำนวนผู้ใช้บริการเครื่องบินที่เพิ่มขึ้นนี้ ส่วนหนึ่งมาจากชื่อเสียงด้านการท่องเที่ยวของจังหวัดเลย และจำนวนนักธุรกิจที่เข้ามาลงทุนทั้งห้างค้าปลีกค้าส่งขนาดใหญ่ และธุรกิจโรงงานแปรรูปพืชผลทางการเกษตร ที่ผ่านมา หอการค้า จ.เลย ร่วมกับทางจังหวัดได้ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงเบื้องต้นกับทางแขวงหลวงพระบางแล้วถึงเรื่องการเปิดเส้นทางการบินระหว่าง จ.เลย กับเมืองมรดกโลกของ สปป.ลาว แต่ยังติดปัญหาที่ท่าอากาศยานเลยยังไม่ได้ยกระดับเป็นสนามบินศุลกากร ซึ่งองค์กรภาคธุรกิจเอกชนและหน่วยงานราชการในจังหวัดได้พยายามผลักดันเรื่องนี้อย่างเต็ม ที่ หากประสบความเร็จ ก็จะสามารถดึงดูดให้นักท่องเที่ยวเข้ามาเพิ่มมากขึ้น โดยการแวะเที่ยวที่จังหวัดเลยก่อน แล้วเดินทางไปเที่ยวที่หลวงพระบางได้ง่ายขึ้น
ขยายตัวทางเศรษฐกิจของจังหวัดด้วย ซึ่งจำนวนผู้ใช้บริการเครื่องบินที่เพิ่มขึ้นนี้ ส่วนหนึ่งมาจากชื่อเสียงด้านการท่องเที่ยวของจังหวัดเลย และจำนวนนักธุรกิจที่เข้ามาลงทุนทั้งห้างค้าปลีกค้าส่งขนาดใหญ่ และธุรกิจโรงงานแปรรูปพืชผลทางการเกษตร ที่ผ่านมา หอการค้า จ.เลย ร่วมกับทางจังหวัดได้ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงเบื้องต้นกับทางแขวงหลวงพระบางแล้วถึงเรื่องการเปิดเส้นทางการบินระหว่าง จ.เลย กับเมืองมรดกโลกของ สปป.ลาว แต่ยังติดปัญหาที่ท่าอากาศยานเลยยังไม่ได้ยกระดับเป็นสนามบินศุลกากร ซึ่งองค์กรภาคธุรกิจเอกชนและหน่วยงานราชการในจังหวัดได้พยายามผลักดันเรื่องนี้อย่างเต็ม ที่ หากประสบความเร็จ ก็จะสามารถดึงดูดให้นักท่องเที่ยวเข้ามาเพิ่มมากขึ้น โดยการแวะเที่ยวที่จังหวัดเลยก่อน แล้วเดินทางไปเที่ยวที่หลวงพระบางได้ง่ายขึ้น
สำหรับราคาค่าโดยสารในระหว่าง
จ.เลยกับดอนเมืองขณะนี้ค่อนข้างแพงนั้น
ตนได้ขอให้ทางบริษัทนกแอร์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาลดราคาลง
เพราะหากเทียบกับ จ.น่าน ในระยะทางที่ใกล้เคียงกัน แต่มีราคาตั๋วถูกกว่า ประธานหอการค้า
จ.เลยกล่าว
ทั้งนี้ จากข้อมูลของท่าอากาศยานเลยระบุสถิติจำนวนผู้โดยสารในปี
2556 นับตั้งแต่เดือนมกราคมถึงเดือนกันยายน
มีทั้งสิ้น 30,575 คน เดินทางทั้งขาขึ้นและขาล่องเฉลี่ยเดือนละ 1,600 คน
ขณะที่ผู้โดยสารปี 2555 นับจากเดือนมกราคมถึงธันวาคม
มีจำนวน 22,653 คน.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น