เมื่อวันที่
19 มีนาคม 2559 ผศ.ดร. ธนวรรธน์ พลวิชัย พร้อมด้วย พ.ท.หนุน ศันสนาคม กรรมการในคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล เดินทางมาที่ตลาดค้าสลากกินแบ่งรัฐบาล
อ.วังสะพุง จ.เลย
เพื่อสำรวจความคิดเห็นของกลุ่มผู้ค้าสลากฯรายย่อย และผู้ค้าส่งสลากฯ (ยี่ปั๊ว-ซาปั๊ว) โดยมี พล.ต.ชัยวิน ผูกพันธุ์
ผู้บัญชาการมลฑลทหารบกที่ 28 และ
พ.ต.อ.สุจินต์ นาวาเรือน ผู้กำกับ สภ.วังสะพุง ให้การต้อนรับ
ซึ่งบรรยากาศภายในตลาดนัดสลากฯวังสะพุงไม่ค่อยคึกคักเท่าที่ควร
ผศ.ดร. ธนวรรธน์ พลวิชัย กล่าวภายหลังการเดินสำรวจความคิดเห็นผู้ค้าในตลาดว่า เหตุที่ต้องเดินทางมาที่ อ.วังสะพุง จ.เลย เพราะที่นี่ถือเป็นตลาดขายส่งใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 3 ของประเทศ และมีผู้ค้าสลากฯรายย่อยมากที่สุด ประมาณ 18,000 ราย และมีจำนวนผู้จองซื้อผ่านทางธนคารกรุงไทย 7,500 คน หรือจำนวนประมาณ 37,000 เล่ม จากจำนวนทั้งหมด 320,000 เล่ม คิดเป็นร้อยละ 12 สิ่งที่ค้นพบหลังจากการสำรวจวันนี้ก็คือ ราคาขายส่งปรับตัวลดลงอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งก่อนหน้าที่จะมีการเปิดขายสลากฯเสรี และเพิ่มจำนวนสลากฯ มีราคาไม่ต่ำกว่า 80 บาท แต่ปัจจุบันมีราคาเหลือเพียง 72-73 บาท ดังนั้นผู้ได้รับประโยชน์ส่วนใหญ่ก็อยู่ที่ผู้ค้ารายย่อย เพราะได้รับส่วนต่างมากขึ้น 7-8 บาท และการสั่งจองซื้อก็ทำได้สะดวกขึ้น และได้จำนวนมากขึ้น ดังนั้นผู้ค้ารายย่อยจึงพึ่งพิงตลาดค้าส่งน้อยลง ส่วนผู้ค้าส่งก็ไม่มีผลกระทบมากนัก มีความพึงพอใจ เพราะได้ส่วนต่างเท่าเดิม พร้อมขอให้คงจำนวนไว้ที่ 60 ล้านฉบับ ไม่ควรเพิ่มหรือลดลงไปมากกว่านี้ เชื่อว่าผู้ค้าส่งจะปรับตัวเข้ากับสถานการณ์ได้ดี
ผศ.ดร.
ธนวรรธน์ กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตาม
ผู้ค้ารายย่อยส่วนใหญ่ได้ขอให้เพิ่มช่องทางการจองซื้อสลากฯให้สะดวกขึ้น เพราะได้งวดละ 5 เล่ม ไม่พอขาย
ขอเป็นงวดละ 10 เล่ม
จึงจะมีความสุข
ซึ่งตนจะรับข้อเรียกร้องไปหาทางช่วยเหลือให้ได้รับสลากฯอย่างเพียงพอต่อไป จึงถือว่า กรอบและนโยบายของกองสลากฯที่ดำเนินการมาถึงขณะนี้ถือว่า
มาถูกทางแล้ว
ด้าน
พ.ท.หนุน ศันสนาคม กล่าวว่า
อุปสรรคสำหรับผู้ค้าตัวจริงเข้าถึงสลากฯในราคาต้นทุนได้ยากก็คือ
มีผู้สั่งจองซื้อที่ไม่ได้เอาไปขายเองอยู่เป็นจำนวนมาก ขณะนี้เราได้ตรวจสอบพบว่ามีจำนวนประมาณ 800
ราย
ที่จะต้องตัดสิทธิ์ไม่ให้สั่งจองซื้อ
โดยจะประกาศรายชื่อขึ้นทางเว็บไซต์
และหากพิสูจน์ทราบได้ว่า บุคคลดังกล่าวได้รับโควตาเดิมอยู่แล้วก็จะตัดสิทธิ์ทั้งหมดเช่นเดียวกัน.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น