วันอังคารที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2563

ชาวบ้านร้องผู้ว่าฯเลย นายทุนเข้าปักหลักเขตเหมืองแร่ทับที่ทำกิน-ป่าต้นน้ำ(ชมคลิป)



เมื่อวันที่ 7 มกราคม 2563  ที่หน้าศาลากลาง จ.เลย  ชาวบ้านคอนสา หมู่ 4 และบ้านสาธร หมู่ 10 ต.เชียงกลม  อ.ปากชม จ.เลย  กว่า 100 คน  เดินทางเข้ายื่นหนังร้องเรียน เนื่องจากได้รับควาเดือดร้อนที่กลุ่มนายทุนเข้าปักหลักเขตประทานบัตรเหมืองแร่ทับที่ดินทำกิน และพื้นที่ป่าอนุรักษ์ ซึ่งเป็นต้นน้ำลำธาร  โดยกลุ่มชาวบ้านได้พากันนั่งรอนายชัยวัฒน์  ชื่นโกสุม  ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย ที่บริเวณบันไดทางขึ้นอาคารศาลากลาง


หลังจากนั้นประมาณ 30 นาที  ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย ได้เดินทางมาพบกับกลุ่มชาวบ้าน พร้อมด้วยนายโสภณ  สุรรณรัตน์  รองผู้ว่าราชการจังหวัดเลย  นายภัทราวุธ  มณีรัตน์  อุตสาหกรรมจังหวัดเลย  และเจ้าหน้าที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด




หนังสือร้องเรียนระบุว่า เนื่องด้วย มีนายทุนเข้ามาทําการรังวัด ฝังเสาในเขตพื้นที่ทํากินของชาวบ้าน ราษฎร หมู่ 4 และหมู่ 10 ตําบลเชียงลม อําเภอปากชม จังหวัดเลย โดยให้ค่าจ้างแรงงานวันละ 500 บาท แก่คนในหมู่บ้านอื่น ซึ่งไม่ใช่เจ้าของพื้นที่ นําพาเข้ามา และมีการข่มขู่ชาวบ้านอีกว่าห้ามทําลายสิ่งของทางราชการ ในการนําเสามาฝัง รังวัดครั้งนี้ บอกว่าเป็นเจ้าหน้าที่ มาจากอุตสาหกรรมจังหวัดเลย ซึ่งเป็นการกระทําที่ข้ามขั้นตอนของทางราชการและเข้าไปกระทําโดยไม่มีการบอกกล่าวกับ เจ้าของพื้นที่ทํากินก่อน เป็นการย่ำายีหัวใจของชาวบ้าน ชาวบ้านต้องการทํามาหากินอย่างสงบสุขไม่ต้องการให้นายทุนเข้ามา กระทําการอื่นใดที่ไม่ถูกต้องเพราะเป็นพื้นที่ทํากินมาเนิ่นนานตั้งแต่ ปู่ย่าตายาย ตกทอดมาสู่รุ่นลูกหลาน




ชาวบ้านทุกคนไม่ ต้องการให้เกิดเหมืองแร่ในพื้นที่ เพราะทุกคนทราบดีว่าผลกระทบจะตามมาแน่นอนและพื้นที่ที่เป็นแหล่งต้นน้ำลําธาร ป่าอนุรักษ์ ป่าน้ำซึมซับที่อุดมสมบูรณ์ที่ชาวบ้านควรอนุรักษ์และรักษาไว้  ซึ่งชาวบ้านคอนสาหมู่ 4 และบ้านสาธรหมู่ 10 ตําบลเชียงกลม เคยได้จัดเวทีประชาคมไปแล้ว และได้ส่งรายงานผลการจัดทําประชาคมแจ้งไปยังหน่วยงานราชการต่างๆทั้งระดับตําบล อําเภอและจังหวัดเลยให้ทราบแล้วเมื่อ กันยายน 2559 ซึ่งมติที่ประชุมครั้งนั้นสรุปได้ว่า ไม่ให้บริษัทเอกชนใดๆหรือกลุ่มบุคคลใดหรือหน่วยงานใดๆเข้าไปดําเนินการ ใดๆเกี่ยวกับเหมืองแร่ในพื้นที่ดังกล่าว



นายภัทราวุธ  มณีรัตน์  อุตสาหกรรมจังหวัดเลย กล่าวว่า  ทางสำนักงานฯหรือทางราชการไม่ได้เข้าไปดำเนินการรังวัด ปักเสาตามที่ชาวบ้านร้องเรียน พื้นที่ดังกล่าวมีบริษัทเอกชนยื่นขออาชญาบัตรผูกขาดสำรวจแร่เท่านั้น ยังไม่ได้รับประทานบัตรทำเหมืองแร่แต่อย่างใด ในวันนี้ตนและเจ้าหน้าที่จะเข้าไปตรวจสอบ และถอนหลักเขตออก  ยืนยันว่าขั้นตอนการขออนุญาตขอประทานบัตรทำเหมืองแร่ยังเหลืออีหลายขั้นตอน ท้ายที่สุดก็อยู่ที่ประชาชน หากมีผู้คัดค้านเพียงคนเดียว ก็ถือเป็นอันสิ้นสุด ไม่สามารถจะทำเหมืองแร่ได้

ทั้งนี้  หลังการยื่นหนังสือ  ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย ได้สั่งการให้อุตสาหกรรมจังหวัดเลย  กอ.รมน.เลย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เดินทางไปตรวจสอบในพื้นที่ทันที สร้างความพอใจให้แก่ชาวบ้าน ก่อนแยกย้ายกันกลับไปรอการดำเนินการของเจ้าหน้าที่.



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น