วันศุกร์ที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2556

จ.เลย–แขวงเวียงจันทน์จับมือขจัดภัยยาเสพติด เปิดเชียงคาน-คกไผ่เป็นด่านถาวร


การประชุมคณะกรรมการร่วมมือรักษาความสงบเรียบร้อยตามชายแดน ไทย ลาว จังหวัดเลย กับ แขวงเวียงจันทน์ สปป.ลาว   เน้นย้ำ การสร้างความเข้าใจที่ดี และเชื่อมสัมพันธ์แนวชายแดนให้แน่นแฟ้น จับมือสกัดกั้นยาเสพติดตามแนวชายแดน พร้อมเปิดด่านบ้านคกไผ่และด่านเชียงคานเป็นด่านถาวร


เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2556 ที่โรงแรมเลยพาเลซ อำเภอเมือง จังหวัดเลย ได้มีการจัดประชุมคณะกรรมการร่วมมือรักษาความสงบเรียบร้อยตามชายแดน ไทย-ลาว จังหวัดเลย- แขวงเวียงจันทน์  สปป.ลาว ครั้งที่ 17 ระหว่างวันที่ 22-23 สิงหาคม 2556   ฝ่ายจังหวัดเลย ประกอบด้วย นายสมพงศ์  อรุณโรจน์ปัญญา    ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย  รองผู้ว่าราชการจังหวัดเลย,  ผู้บังคับการจังหวัดทหารบกเลย, ผู้บังคับการตำภูธรจังหวัดเลย,   รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดเลย  หัวหน้าส่วนราชการ และนายอำเภอ ในพื้นที่ชายแดน ส่วนแขวงเวียงจันทน์ ประกอบด้วย ท่านคำเมิง  พงทะดี เจ้าแขวงเวียงจันทน์, หัวหน้าทหารแขวง, หัวหน้ากองบัญชาการป้องกันและรักษาความสงบแขวง , หัวหน้าส่วนราชการ , เจ้าเมืองชะนะคาม และ เจ้าเมืองหมื่น   ซึ่งเป็นอำเภอชายแดนของลาว ที่อยู่ตรงข้ามกับอำเภอเชียงคาน และ อำเภอปากชม ของจังหวัดเลย


ที่ประชุมได้แสดงความยินดี และชื่นชม ผลความร่วมมือของจังหวัดเลย และแขวงเวียงจันทน์   ในระยะที่ผ่านมา   ซึ่งมีการพัฒนาความสัมพันธ์เพิ่มมากขึ้นตามลำดับ  ทั้งด้านเศรษฐกิจ  สังคมและการค้าชายแดน  โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ความร่วมมือรักษาความสงบตามแนวชายแดน มีความสงบ สันติสุข และร่วมมือแก้ไขปัญหาตามชายแดน เป็นไปด้วยดี  นอกจากนี้ยังมีการจัดกิจกรรมด้านวิชาการเกษตร  การประชุมร่วมกันของภาคธุรกิจการค้า  ซึ่งจะเป็นผลสืบเนื่องเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างกันให้แนบแน่น  นำมาซึ่งความสงบ ความสันติ  ดำรงไว้ซึ่งภราดรภาพที่ราบรื่นยั่งยืนสืบไป

ในการประชุมคณะกรรมการร่วมมือรักษาความสงบเรียบร้อยชายแดนไทย-ลาว  จังหวัดเลย-แขวงเวียงจันทน์  ครั้งที่  17  นี้  ที่ประชุมได้ปรึกษาหารือ และเห็นชอบสนับสนุนการประสานงานระดับจังหวัด-แขวง  โดยกำหนดจัดการประชุมประสานงานแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารร่วมกัน 3 เดือนต่อ 1 ครั้ง โดยผลัดเปลี่ยนกันเป็นเจ้าภาพ, เห็นชอบและสนับสนุนให้จัดการประชุมอนุกรรมการชายแดนระดับเมืองและอำเภอ ปีละ 2 ครั้ง โดยผลัดเปลี่ยนกันเป็นเจ้าภาพ  และเห็นชอบให้มีการจัดประชุมคณะกรรมการร่วมมือรักษาความสงบเรียบร้อยตามชายแดน  ระหว่างจังหวัดกับแขวง  ปีละ 1-2 ครั้ง และในกรณีเร่งด่วน ให้ประสานงานกันทันที

ในส่วนของการตรวจตรา  ลาดตระเวนของกองกำลังติดอาวุธ  ไม่ให้กำลังทหารหรือตำรวจล่วงล้ำเขตน่านน้ำ  ทางบก  หรือทางอากาศของอีกฝ่ายหนึ่งอย่างเด็ดขาด  ยกเว้นกรณีการช่วยเหลือประชาชนที่ประสบอุบัติเหตุตามแม่น้ำโขงตามหลักมนุษยธรรม  แต่ต้องมีการแจ้งประสานงานให้อีกฝ่ายทราบในทันที  และหากมีการเคลื่อนย้าย  หรือเพิ่มกองกำลังเข้าปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่  จะต้องแจ้งให้อีกฝ่ายทราบล่วงหน้าอย่างน้อย   48  ชั่วโมง  ที่ประชุมเห็นชอบไม่ให้กำนัน  ผู้ใหญ่บ้าน  หรือเจ้าหน้าที่ตามชายแดนจัดประชุมตกลงปัญหาชายแดน  โดยไม่ได้รับอนุญาตจากคณะกรรมการ และอนุกรรมการฯ ชายแดน, หากมีการจับกุมคุมขังพลเมืองของฝ่ายใด  จะต้องแจ้งรายชื่อผู้ถูกจับให้อีกฝ่ายทราบภายใน 3 วัน


นอกจากนี้  ที่ประชุมยังเห็นชอบกำหนดเปิด-ปิด จุดผ่านแดนถาวรบ้านคกไผ่  ตำบลปากชม   อำเภอปากชมกับด่านท้องถิ่นบ้านวัง  เมืองหมื่น  แขวงเวียงจันทน์  และจุดผ่านแดนถาวร  อำเภอเชียงคาน  จังหวัดเลยกับด่านท้องถิ่นเมืองชะนะคาม  แขวงเวียงจันทน์  โดยเปิดเวลา 08.00  น. และปิดเวลา  18.00  น.  ของทุกวัน  และให้เจ้าหน้าที่ศุลกากรบ้านคกไผ่-บ้านวัง  และด่านเชียงคาน-เมืองชะนะคาม  ปรึกษาหารือร่วมกันในการจัดระบบการนำสินค้าเข้า-ออก  ตามนโยบายและระเบียบต่าง ๆ  แล้วแจ้งให้นักธุรกิจ  พ่อค้า ประชาชน  ทั้งสองฝ่ายทราบ

ในส่วนของบุคคลสองสัญชาติ  ที่ประชุมเห็นชอบให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทั้งสองฝ่ายร่วมกันแก้ไขปัญหา  โดยการตรวจสอบอย่างจริงจัง  หากปรากฏ หรือพบเห็นให้หารือ  แลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารกันทันที  เพื่อตรวจสอบประวัติ  และจัดทำทะเบียนให้เป็นบุคคลเพียงสัญชาติเดียว

ส่วนปัญหาการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด  ที่ประชุมเห็นชอบให้ปฏิบัติตามบันทึกการประชุมคณะกรรมการฯ  เมื่อวันที่  14  มีนาคม  2545  โดยจะผลักดันและสนับสนุนให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งไทย และลาว  ประชุมปรึกษาหารือ  แลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารซึ่งกันและกัน  เพื่อร่วมสกัดกั้นและปราบปรามการลักลอบซื้อ-ขาย   เสพยาเสพติดทุกชนิดตามบริเวณชายแดนให้หมดไป

ที่ประชุมยังเห็นชอบร่วมมือกันด้านการค้า  การลงทุน  การท่องเที่ยว  การเกษตร  ทัศนศึกษา  แรงงานและสวัสดิการ  การกีฬา  และด้านอื่น ๆ .

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น