วันอังคารที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

เลยเปิดด่านศุลกากรท่าลี่แห่งใหม่รับอาเซียน คาดเพิ่มค่าการค้า การลงทุน ท่องเที่ยวไทย-ลาว ปีละ 1 หมื่นล้านบาท


เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่  18 กุมภาพันธ์ 2557  ที่บริเวณสะพานมิตรภาพน้ำเหืองไทย-ลาว  บ้านนากระเซ็ง  ต.อาฮี อ.ท่าลี่ จ.เลย   นายราฆพ  ศรีศุภอรรถ  อธิบดีกรมศุลกากร  เป็นประธานพิธีเปิดที่ทำการด่านพรมแดนบ้านนากระเซ็งแห่งใหม่ ด่านศุลกากรท่าลี่   โดยมีนายวิโรจน์  จิวะรังสรรค์  ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย   ผู้แทนจากรัฐบาลและนักธุรกิจเอกชนระดับท้องถิ่น สปป.ลาว เข้าร่วมพิธีด้วย




นายศิริพงษ์  วุฑฒินันท์  นายด่านศุลกากรท่าลี่  กล่าวว่า  พรมแดนบ้านนากระเซ็งระยะที่ 1 ได้ดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จไปเมื่อเดือนกันยายน 2556 ด้วยงบประมาณ 91.30 ล้านบาท ประกอบด้วยตัวอาคารหลักสำหรับตรวจเอกสาร คน และยานพาหนะ บ้านพักเจ้าหน้าที่ อาคารอเนกประสงค์  อาคารเอ็กซเรย์สัมภาระผู้เดินทาง  อาคารศูนย์บริการผู้เดินผ่านประเทศ  ห้องประชุมสัมมนาและแถลงข่าว  ลานจอดรถและอาคารบริการรถขนส่งสินค้า โดยจะแยกชัดเจนระหว่างการขนส่งสินค้ากับประชาชนผ่านแดนทั่วไป ซึ่งจะเป็นการอำนวยความสะดวกขั้นตอนผ่านแดน ทั้งด้านธุรกิจการค้า  และการท่องเที่ยวได้รวดเร็วยิ่งขึ้น  




นายวิโรจน์   จิวะรังสรรค์  ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย  กล่าวว่า  นับตั้งแต่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 2546  เห็นชอบโครงการก่อสร้างสะพานมิตรภาพน้ำเหืองไทย-ลาว  เชื่อมระหว่างบ้านนากระเซ็ง ต.อาฮี  อ.ท่าลี่ จ.เลย  กับบ้านเมืองหมอ  เมืองแก่นท้าว  แขวงไชยะบุรี  สปป.ลาว  ซึ่งได้ดำเนินการก่อสร้างสะพานแห่งนี้แล้วเสร็จเมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2547  ทำให้ด่านพรมแดนบ้านนากระเซ็ง  ด่านศุลกากรท่าลี่ เป็นด่านที่มีความสำคัญทั้งในปัจจุบันและอนาคต  ซึ่งจุดนี้เป็นเส้นทางที่สามารถเดินทางถึงหลวงพระบาง โดยผ่านแขวงไชยะบุรี ระยะทางเพียง 343 กิโลเมตร  เป็นเส้นทางที่สั้นที่สุดและไม่สูงชัน  ใช้เวลาเดินทางเพียง 6 ชั่วโมง  และสามารถเชื่อมโยงสู่พรมแดนประเทศจีน เพียง 267 กิโลเมตร 

นายราฆพ  ศรีศุภอรรถ  อธิบดีกรมศุลกากร  
นายศิริพงษ์  วุฑฒินันท์  นายด่านศุลกากรท่าลี่  

ผู้ว่าราชการจังหวัดเลยกล่าวอีกว่า  ปัจจุบันด่านพรมแดนบ้านนากระเซ็งยังเป็นเส้นทางลำเลียงขนส่งวัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ในการก่อสร้างเขื่อนไชยะบุรี  ซึ่งมีระยะเวลาการก่อสร้าง 7 ปี  มูลค่าการก่อสร้างโครงการประมาณ 115,300 ล้านบาท  เป็นผลให้มูลค่าการค้าเพิ่มขึ้นจากปี 2554 ที่มูลค่าเพียง 3,115 ล้านบาท  เพิ่มเป็น 7,746 ล้านบาท ในปี 2556  และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง  คาดว่ามูลค่าการค้าจะเพิ่มขึ้นเป็น 10,000 ล้านบาทในเร็วๆนี้  นายวิโรจน์กล่าว.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น