วันพฤหัสบดีที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2559

ชาวบ้านกลางเข้ากรุง ยื่นคัดค้านประตูน้ำศรีสองรัก รองอธิบดีกรมชลฯยัน ไม่ต้องการก็ไม่สร้าง


ตัวแทนชาวบ้านกลาง ต.ปากตม อ.เชียงคาน เดินทางเข้าเมืองหลวง ยื่นหนังสือต่อรองอธิบดีกรมชลประทาน คัดค้านโครงการก่อสร้างประตูระบายน้ำศรีสองรักราคา 5,000 ล้านบาท  หวั่นบ้านเรือน-ที่ดินดำกินกว่า 1,000 ไร่ จมใต้น้ำ อพยพหนีถิ่นฐานเดิม ชุมชนไทพวนล่มสลาย ระบุ เคยยื่นหนังสือคัดค้านผ่านทางอำเภอและจังหวัดแล้วหลายครั้งยังเงียบ  ด้านอธิบดีกรมชลประทานเผย ไม่เคยเห็นหนังสือคัดค้านจากทางจังหวัด  หากชาวบ้านไม่ต้องการก็พร้อมยุติโครงการ

เว็บไซต์คนชายข่าว  คนชายขอบ (http://transbordernews.in.th)  รายงานว่า เมื่อวันที่ 21 มกราคม 2559 เวลาประมาณ 10.00 น. ที่กรมชลประทาน กรุงเทพฯ ตัวแทนชาวบ้าน 10 คน จากบ้านกลาง ตำบลปากตม อำเภอเชียงคาน จังหวัดเลย เดินทางมายื่นหนังสือต่ออธิบดีกรมชลประทาน เพื่อคัดค้านโครงการก่อสร้างประตูระบายน้ำศรีสองรัก ที่จะกั้นแม่น้ำเลยในพื้นที่ตำบลปากตม ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนการแก้ภัยแล้งในโครงการผันน้ำโขง-เลย-ชี-มูล โดยมีว่าที่ร้อยตรีไพเจน  มากสุวรรณ รองอธิบดีฯ ฝ่ายวิชาการ เป็นตัวแทนรับหนังสือ   

นางสรรัตน์  แก้วสา ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 3 ตำบลปากตม จังหวัดเลย  กล่าวว่า ที่ผ่านมาชาวบ้านไม่เคยรู้มาก่อนว่าจะมีโครงการก่อสร้างประตูระบายน้ำศรีสองรัก จนกระทั่งกรมชลประทานเข้ามาจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นในพื้นที่ ซึ่งชาวบ้านได้แสดงความเห็นคัดค้านในทุกครั้ง   เนื่องจากมีความกังวลถึงผลกระทบต่อที่อยู่อาศัยกว่า 350 หลังคาเรือน และพื้นที่ทำกินกว่า 1,000 ไร่ รวมถึงกระทบต่อวิถีชุมชนของชาวไทยพวนที่ชุมชนบ้านกลาง ซึ่งมีอยู่เพียงแห่งเดียวในจังหวัดเลย ผู้ใหญ่บ้านกล่าวต่อว่า ชาวบ้านเคยยื่นหนังสือคัดค้านหลายครั้ง โดยเฉพาะต่อหน่วยงานระดับอำเภอและระดับจังหวัด  แต่กลับไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆ จนเมื่อมีการเข้ามาตั้งสำนักงานโครงการฯ ในพื้นที่อำเภอเชียงคาน และมีเจ้าหน้าที่เข้ามาสำรวจระดับน้ำและที่ดิน ทำให้รู้ตัวว่าโครงการฯ กำลังเดินหน้าการก่อสร้างในเร็วๆ นี้ ชาวบ้านจึงตัดสินใจส่งตัวแทนเดินทางเข้ายื่นหนังสือถึงอธิบดีกรมชลประทาน


โดยมีข้อคัดค้าน คือ 1.ชาวบ้านไม่เคยรับรู้รายละเอียดการก่อสร้างประตูระบายน้ำศรีสองรักก่อนที่จะมีการเริ่มโครงการ 2.ไม่มีการเปิดเผยข้อมูลของผลกระทบตลอดลำน้ำ ซึ่งจะเป็นพื้นที่กักเก็บน้ำให้แก่ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย 3.ชุมชนบ้านกลางเคยประสบปัญหาน้ำท่วม และประสบปัญหาการกัดเซาะตลิ่ง เกรงว่าหากมีน้ำท่วมสูงขึ้นจะส่งผลกระทบต่อปัญหาดังกล่าวให้รุนแรงยิ่งขึ้น จึงต้องการให้กรมชลประทานมีการทบทวนโครงการนี้ใหม่

ด้านนายว่าที่ร้อยตรีไพเจน  มากสุวรรณ  รองอธิบดีกรมชลประทานกล่าวว่าไม่เคยได้รับหนังสือคัดค้านจากชาวบ้านที่ส่งผ่านอำเภอ เมื่อวันนี้ชาวบ้านมายืนยันด้วยตัวเองว่าไม่ต้องการประตูน้ำ กรมชลฯ ก็จะไม่มีการสร้างอย่างแน่นอน


ทั้งนี้ ข้อมูลจากเว็บไซต์ ศูนย์บริการประชาชน สำนักงานปลัดนายกรัฐมนตรี ระบุ โครงการประตูระบายน้ำศรีสองรัก จังหวัดเลย ใช้ระยะเวลาดำเนินการ 6 ปี (ปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 – 2564) คือ 1.ดำเนินการเตรียมความพร้อมโครงการและสำรวจปักหลักเขต ในปี พ.ศ. 2559 , 2. ดำเนินการก่อสร้างประตูระบายน้ำและอาคารประกอบพร้อมส่วนประกอบอื่น ใช้ระยะเวลาดำเนินการ 5 ปี (พ.ศ. 2560-2564) , 3. ดำเนินการก่อสร้างสถานีสูบน้ำและระบบท่อส่งน้ำ ใช้ระยะเวลาดำเนินการ 3 ปี (พ.ศ. 2562-2564) ภายใต้งบประมาณ 5 พันล้านบาท โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2559 จนถึงวันที่ 30 กันยายน  2564.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น