วันเสาร์ที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2562

“อนุทิน” ยกมุ้งหลากสี รพ.เชียงคานเป็นต้นแบบสู้ไข้เลือดออก มั่นใจดันกัญชาพ้นบัญชียาเสพติด (ชมคลิป)



เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม 2562  นายอนุทิน ชาญวีรกูล  รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข  เดินทางมาตรวจเยี่ยมการดำเนินงานของโรงพยาบาลเชียงคาน  จ.เลย  และมอบนโยบายด้านสาธารณสุขให้แก่หัวหน้าส่วนราชการและบุคลากรทางการแพทย์ของจังหวัดเลย พร้อมติดตามสถานการณ์ไข้เลือดออกในพื้นที่อำเภอเชียงคาน  ถือเป็นการออกปฏิบัติงานต่างจังหวัดครั้งแรก หลังได้รับโปรดเกล้าฯเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข




โรงพยาบาลเชียงคาน  เป็นโรงพยาบาลชุมชนขนาด 60 เตียง ให้บริการด้านตรวจรักษาผู้ป่วยแก่ประชาชนในพื้นที่อำเภอเชียงคาน และประชาชนจาก สปป.ลาว   สถานการณ์ไข้เลือดออกในอำเภอเชียงคาน ช่วงสี่สัปดาห์ที่ผ่านมา พบผู้ป่วยแล้วจำนวน 21 ราย คิดเป็นอัตราป่วย 34.33 รายต่อประชากร 1 แสนคน  และจากช่วงต้นปีที่ผ่านมา พบผู้ป่วยแล้ว 77 ราย   คิดเป็นอัตราป่วย 291.30 รายต่อประชากร 1 แสนคน  ขณะที่ผู้ป่วยไข้เลือดออกทั้งจังหวัด นับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2562 ถึงวันที่ 13 กรกฎาคม  2562   มีจำนวน 765 คน  สูงเป็นอันดับที่ 9  ของประเทศ  โดยมีผู้ป่วยเสียชีวิตแล้ว 2 คน

หลังจากรับฟังการบรรยายสรุปการดำเนินงานของโรงพยาบาลเชียงคานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขได้เข้าเยี่ยมชมการรักษาผู้ป่วยโรคไข้เลือดออกที่ตึกผู้ป่วยใน ซึ่งโรงพยาบาลเชียงคานได้นำมุ้งสามสีมาใช้ โดยเลือกมุ้ง 3 สีมากางให้ผู้ป่วย  ประกอบด้วย สีชมพู เป็นผู้ป่วยระยะวิกฤต ต้องเอาใส่ใจดูแลอย่างใกล้ชิด สีขาว เป็นผู้ป่วยอยู่ในช่วงเฝ้าระวังตามแนวทางการรักษา  สีเขียว คือ ผู้ป่วยระยะพักฟื้น

หลังจากนำมุ้งสามสีมาใช้กับผู้ป่วย ก็ทำให้กระตุ้นบรรยากาศการทำงานของเจ้าหน้าที่พยาบาลและญาติดูตื่นเต้นขึ้น รู้สึกดีทุกครั้งที่จะมีการเปลี่ยนสีมุ้งให้ผู้ป่วยที่อาการดีขึ้น ถือเป็นการเตือนใจและรณรงค์ให้กับผู้ป่วยและญาติว่าต้องดูแลและป้องกันไม่ให้เป็นไข้เลือดออกอีก




 นายอนุทินกล่าวว่า  ขณะนี้ได้ให้แนวทางการป้องกันและรักษาโรคไข้เลือดออกแก่หน่วยงานที่ดูแลเรื่องนี้แล้ว  รูปแบบที่โรงพยาบาลเชียงคานกำลังใช้อยู่ถือเป็นที่ทุกโรงพยาบาลสามารถนำไปปรับใช้ได้  ส่วรนปัญหาด้านอัตรากำลังเจ้าหน้าที่มีไม่เพียงพอกับจำนวนผู้มารับบริการนั้น หลังจากนี้ตนจะไปหารือกับสำนักงานข้าราชการพลเรือ เพื่อเปิดกรอบบรรจุบุคลากรเพิ่มเติม เพราะไม่ได้ทำมานานแล้ว  และได้วางแผนเพื่อจะยกระดับอสม.โดยการฝึกอบรมเพื่อให้อสม.พัฒนาตนเองให้มีศักยภาพและเป็นที่พึ่งของประชนในอนาคตอีกด้วย

ส่วนกรณีการนำกัญชามาใช้ทางการแพทย์นั้น  นายอนุทินกล่าวว่า เราได้รู้แล้วว่ากัญชามีคุณประโยชน์อย่างมหาศาลทางการรักษาคนเจ็บป่วย  ขณะนี้คืบหน้าไปมากแล้ว เชื่อว่าจะสามารถถอดกัญชาออกจากบัญชียาเสพติด และประสบความสำเร็จในช่วงที่ตนเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขแน่นอน ซึ่งการนำกัญชามาใช้ทางการแพทย์จะมีการควบคุมภายใต้ผู้เชี่ยวชาญ ไม่ใช่เป็นการนำเอากัญชามาใช้อย่างเสรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าว .

x

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น