ชาวบ้านและนักศึกษาชุมชนหอพักในซอยหน้ามหาวิทยาลัยราชภัฏเลย  ต.เมือง  อ.เมือง จ.เลย  ร้องเรียนต่อสื่อมวลชนว่าได้รับความเดือดร้อนจากถนนที่ชำรุด เป็นดินโคลนหลังจากมีฝนตกลงมา  ไม่สามารถใช้สัญจรผ่านเข้าออกได้สะดวก  โดยเฉพาะนักศึกษาที่ต้องเดินทางไปเรียนหนังสือ ต้องจอดรถไว้อีกฝั่งหนึ่ง เพราะพื้นถนนเละเป็นขี้โคลน ไม่กล้าขับรถผ่านเพราะกลัวลื่นล้ม  ต้องเดินข้าม  โดยหอบหิ้วเอารองเท้าสำหรับเข้ามหาวิทยาลัยไปเปลี่ยนด้วย  บางคนเข้าเรียนสาย เพราะรองเท้า เสื้อผ้าเปรอะเปื้อนดินโคลนจากการลื่นล้ม

ชาวบ้านเล่าว่า  ในชุมชนที่ต้องใช้ซอยนี้สัญจร มีหอพัก 3 แห่ง และบ้านเรือนอีกหลายหลัง  รวมกว่า 500 คน ต้องได้รับความเดือดร้อน หลังจากที่ อบต.เมือง  เอาดินมาถมท่อน้ำ เมื่อมีฝนตกลงมาก็ทำให้ถนนลื่น เป็นดินโคลน  เดิมนั้นถนนเป็นพื้นผิวลาดยาง ที่ชาวบ้านและเจ้าของหอพักรวมรวมเงินกันมาทำเอง  แต่รถหกล้อบรรทุกดินผ่านเข้าออกเป็นประจำ ทำให้ถนนชำรุด  เจ้าของหอพักบางรายต้องขายกิจการทิ้ง เพราะไม่มีนักศึกษาเข้ามาเช่าอยู่  เคยร้องขอไปทาง อบต.เมืองหลายครั้งแล้ว แต่ก็ยังไม่เข้ามาดำเนินการแก้ไขแต่อย่างใด ทั้งๆที่อยู่ห่างมหาวิทยาลัยราชภัฏเลยเพียง 300 เมตร  ในวันนี้ จึงต้องลงทุนซื้อหินคลุกมา 2 คันรถ เพื่อมาทับพื้นโคลน ให้นักศึกษาผ่านเข้าออกได้แบบชั่วคราวก่อน  โดยมีนักศึกษาในหอพักออกมาช่วยกันเกลี่ยหิน

ทั้งนี้  ภายหลังการเข้าตรวจสอบตามที่ได้รับร้องเรียนดังกล่าว  ได้เข้าพบกับนายอาคม  คณะศิริวงษ์  นายก อบต.เมือง  ซึ่งได้รับการชี้แจงว่า ถนนที่ได้รับการร้องเรียน  เดิมมีสภาพคับแคบ ทางอบต.จึงได้ดำเนินการขยายความกว้าง วางท่อระบายน้ำ โดยนำดินมาถม โดยหลังจากได้ทราบเรื่อง จะได้นำหินคลุกไปเท พร้อมรถเกรดปรับพื้นให้เรียบ แก้ปัญหาเบื้องต้นไปก่อน  และจะตั้งงบประมาณก่อสร้างถนนคอนกรีตเสริมเหล็กให้อย่างถาวรต่อไป 

นายอาคมกล่าวว่า  อบต.เมือง มีพื้นที่รับผิดชอบ 52 ตารางกิโลเมตร ดูแลชุมชนรอบมหาวิทยาลัยราชภัฏเลย ซึ่งมีประชากรหนาแน่น ขณะที่ อบต.มีงบประมาณแต่ละปีไม่เพียงพอ  ซึ่งตนก็พยายามจะดูแลให้อย่างทั่วถึง อาจขาดตกบกพร่องไปบ้าง  นายก อบต.เมือง กล่าว.