วันอาทิตย์ที่ 12 เมษายน พ.ศ. 2563

เลยเครียด พบผู้ติดเชื้อโควิดคนที่ 4 ผู้ว่าฯสั่งห้ามขายเหล้าทั่วจังหวัด (ชมคลิป)



เมื่อวันที่ 12 เมษายน  2563  ที่ศูนย์บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินจังหวัดเลย  นายชัยวัฒน์  ชื่นโกสุม  ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย ในฐานะประธานคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัดเลย  นายแพทย์ยอดลักษณ์  สัยลังกา  รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเลย   นายแพทย์ชุมนุม  วิทยานันท์  ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเลย  และ พ.ต.อ.ณัฐกฤต  คำวิเศษชัย   รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเลย   ร่วมกันแถลงข่าวสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19  ของจังหวัดเลย
 

นายชัยวัฒน์กล่าวว่า  ในการประชุมคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัดเลยในวันนี้  ที่ประชุมได้มีมติให้ออกประกาศห้ามจำหน่าย จ่าย แจก แลกเปลี่ยน  ให้สุราหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด เริ่มมีผลบังคับใช้ระหว่างวันที่ 12 – 30 เมษายน 2563   นอกจากนี้ที่ประชุมยังได้มีมติห้ามเล่นน้ำสงกรานต์ หรือมีกิจกรรมงานรื่นเริงที่เป็นลักษณะการรวมกลุ่มคนจำนวนมาก  เนื่องจากที่ประชุมพิจารณาเห็นว่า  การรวมกลุ่มทำกิจกรรมต่างๆ  อีกทั้งเชื้อโรคอาจจะมากับน้ำ เข้าตา เข้าจมูก ทำให้การแพร่กระจายมีมากขึ้น  ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ ฝ่ายปกครอง และเจ้าหน้าที่สำนักงานสรรพสามิตออกตรวจตรา บังคับใช้กฏหมายอย่างจริงจัง 


ขณะเดียวกันที่ประชุม ยังได้พิจารณาเกี่ยวกับการป้องกันการแพร่เชื้ออันเนื่องมาจากผู้ติดเชื้อรายล่าสุดเมื่อวานนี้  โดยได้สั่งปิดสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดเลย  ที่ทำงานของสามีผู้ติดเชื้อรายที่ 3  พร้อมปิดทางเข้า-ออกบริเวณบ้านของผู้ติดเชื้อและบ้านพ่อแม่ของผู้ติดเชื้อในตำบลชัยพฤกษ์ อ.เมืองเลย

นายแพทย์ยอดลักษณ์  กล่าวว่า  สถานการณ์ล่าสุดในจังหวัดเลยวันนี้ พบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอีก 1 ราย  สะสมจำนวน 4 ราย รักษาหายกลับบ้านไปแล้ว 1 ราย ยังคงพักรักษาตัวอยู่ 3 ราย  ส่วนผู้เข้าเกณฑ์สอบสวนโรครายใหม่วันนี้มีจำนวน 15 ราย ซึ่งกำลังรอผลตรวจหาเชื้อ



ด้านนายแพทย์ชุมนุมกล่าวว่า  ผู้ติดเชื้อรายที่ 3 เป็นหญิงอายุ 46 ปี  เป็นข้าราชการ  โรงพยาบาลเลย  ทำงานสนับสนุนการบริการ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการให้บริการผู้ป่วยที่ด่านหน้า  มีโรคประจำตัว คือ โรคไทรอยด์เป็นพิษ  ซึ่งจากประวัติการเจ็บป่วยและเข้ามาตรวจรักษาอาการป่วยที่โรงพยาบาลเลยหลายครั้งตามที่ได้รายงานข่าวไปแล้ว  เนื่องจากผู้ติดเชื้อรายนี้เป็นเจ้าหน้าที่ทำงานอยู่ในโรงพยาบาลเลย  อาการช่วงแรกไม่ได้รุนแรงมาก จึงกลับไปทำงานตามปกติ  จนกระทั่งวันที่ 10 เมษายน  แพทย์ได้วินิจฉัยว่าอาจติดเชื้อโควิด-19  จึงได้ซักประวัติอย่างละเอียด ทราบว่า สัมผัสใกล้ชิดกับสามีที่เดินทางกลับมาจากพื้นที่เสี่ยง แพทย์จึงได้ให้นอนที่โรงพยาบาลและเก็บสารคัดหลั่งส่งตรวจ ปรากฏว่าผลเป็นบวก หรือมีเชื้อโควิด-19   ซึ่งขณะนี้ ผู้ป่วยได้รับการรักษาจากแพทย์อยู่ในห้องแยกโรคโรงพยาบาลเลย โดยได้ให้ยา 4 ตัว ตามที่กรมการแพทย์กำหนด ปัจจุบันมีอาการไข้เล็กน้อย  อาการเหนื่อยหอบลดลง  สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ดีขึ้น  

จากประวัติการเดินทางของผู้ป่วยรายนี้ จะเห็นว่า แทบจะไม่ได้เดินทางไปที่ไหนเลย ยกเว้นไปจังหวัดขอนแก่นในวันที่ 6 เมษายน  ที่เหลือก็เดินทางไป-มาระหว่างบ้านกับที่ทำงานคือโรงพยาบาลเท่านั้น  จึงไม่น่าเป็นห่วงมากนัก   ส่วนผู้ที่สัมผัสใกล้ชิดในที่ทำงานจำนวน 12 คน  ทางเจ้าหน้าที่ได้ส่งสารคัดหลั่งไปตรวจแล้ว คาดว่าจะทราบผลในช่วงค่ำของวันนี้



ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเลยกล่าวอีกว่า   ส่วนผู้ติดเชื้อรายที่ 4 หรือรายใหม่ของจังหวัดเลย ที่เป็นสามีของผู้ติดเชื้อรายที่สาม มีอายุ 57 ปี  ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้พามารักษาตัวอยู่ในห้องแยกโรคโรงพยาบาลเลยแล้ว  ไม่มีไข้ อาการปกติดีทุกอย่าง  ส่วนผู้สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยรายนี้ ทางเจ้าหน้าที่กำลังดำเนินการสอบสวน เพื่อนำมาตรวจหาเชื้อเพิ่มเติม และประวัติการเดินทางจะทราบแน่ชัดได้ในวันพรุ่งนี้   สำหรับผู้สัมผัสใกล้ชิดของผู้ติดเชื้อทั้งสองรายนี้ ที่เป็นบุคคลในครอบครัวที่ประกอบด้วย บุตรสองคน พ่อและแม่ ผลการตรวจออกมาแล้วไม่พบเชื้อแต่อย่างใด   นายแพทย์ชุมนุมกล่าว


ทั้งนี้  นายกิตติคุณ  บุตรคุณ  นายอำเภอเมืองเลย ในฐานะเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่ออำเภอเมืองเลย ร่วมกับสำนักงานธารณสุขอำเภอเมืองเลยได้ออกหนังสือสั่งการให้ผู้ที่ทำงานในสำนักงานเดียวกับสามีของผู้ติดเชื้อ และผู้สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อทั้งกลุ่มเสี่ยงสูง และกลุ่มเสี่ยงต่ำกักตัวเองเป็นเวลา 14 วัน  พร้อมได้ตั้งจุดตรวจสกัดห้ามบุคคลภายนอกเข้า-ออกในบริเวณบ้านของผู้ติดเชื้อ พร้อมคัดกรองประชาชนที่ในหมู่ที่ผ่านเข้าออกอย่างเข้มงวด และมีการทำความสะอาดครั้งใหญ่ในหมู่บ้าน โดยจะใช้วิธีการเช็ดถูเป็นหลัก งดเว้นการฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อ.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น