วันศุกร์ที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2563

หญิงไลฟ์สดรถพยาบาลมาช้า เข้ามอบช่อดอกไม้ ขอโทษพยาบาล-ผอ.รพ.ภูหลวงแล้ว (ชมคลิป)



จากกรณีที่หญิงรายหนึ่งใช้ชื่อในเฟซบุ๊คว่าลัดดาภรณ์  จันทิมา ถ่ายทอดสดผ่านเฟซบุ๊คของตนเองเมื่อช่วงหัวค่ำวันที่ 16 สิงหาคม 2563  รายงานอุบัติเหตุชายไม่ทราบชื่อขับขี่รถจักรยานยนต์ล้มนอนคว่ำหน้าหมดสติอยู่ริมถนนหน้าใกล้ทางเข้าโรงพยาบาลภูหลวง  อ.ภูหลวง  จ.เลย  โดยบรรยายในคลิปว่า ผ่านไปสามสิบนาที รถพยาบาลยังไม่มารับ ทั้งที่จุดเกิดเหตุอยู่ห่างจากโรงพยาบาลเพียง 200 เมตร



หลังจากนั้น ได้มีเจ้าหน้าที่พยาบาล ขับรถจักรยานยนต์มา 2 คน พร้อมอุปกรณ์และเวชภัณฑ์ปฐมพบาลผู้บาดเจ็บเบื้องต้น ก่อนที่รถของอาสาสมัครมูลนิธิสว่างคีรีธรรม จุดภูหลวงจะมารับไปส่งโรงพยาบาล  และหลังจากนั้น มีรถพยาบาลของโรงพยาบาลภูหลวงเดินทางมาถึงพอดี  ขณะที่ผู้ถ่ายทอดสดเดินกลับร้านค้าของตนที่อยู่ปากทางเข้าโรงพยาบาลนั้น  อย่างไรก็ตาม คลิปวิดีโอดังกล่าวได้ถูกลบออกไปแล้ว หลังจากที่ทางผู้บริหารโรงพยาบาลจะเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับสาวเจ้าของคลิป

ต่อมา เมื่อวันที่ 17 สิงหาคม 2563  พ.ญ.ประภาพรรณ  จันทร์นาม  ผู้อำนวยการโรงพยาบาลภูหลวง พร้อมด้วยผู้บริหาร เดินทางเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.ภูหลวง เพื่อให้ดำเนินคดีกับหญิงสาวที่ไลฟ์เฟซบุ๊คเหตุการณ์ดังกล่าว เพื่อรักษาเกียรติยศ ชื่อเสียงของโรงพยาบาลและบุคลากร  โดยยืนยันหลังจากตรวจสอบแล้ว เจ้าหน้าที่พยาบาลใช้เวลาไปถึงที่เกิดเหตุเพียง 3-4 นาที นั้น




ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2563  หญิงรายดังกล่าวพร้อมมารดา ได้เข้ามอบช่อดอกไม้ให้แก่ พ.ญ.ประภาพรรณ  จันทร์นาม  ผู้อำนวยการโรงพยาบาลภูหลวง และ น.ส.จิราวรรณ  สุวรรณโชติ  พยาบาลวิชาชีพปฎิบัติการ เพื่อแสดงความขอโทษกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น  

โดยยอมรับว่า กระทำลงไปด้วยการขาดความยั้งคิดที่ถี่ถ้วน ที่อาจส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงโดยรวมของแพทย์พยาบาลและโรงพยาบาล เพราะในขณะนั้นรู้สึกตกใจกับอุบัติที่เกิดขึ้นใกล้บ้าน  รู้สึกเสียใจกับการกระทำของตนเอง  ตลอดเวลาหลังจากเกิดเหตุการณ์นี้ ตน พ่อและแม่ไม่สบายเป็นอย่างมาก  ฝากไปยังผู้ที่กำลังจะทำการไลฟ์สดในเหตุการณ์ต่างๆ ขอให้อย่าใช้อารมณ์ ควรคิดไตร่ตรองให้ดีก่อนว่าจะเป็นการสร้างผลกระทบด้านลบให้แก่บุคคลอื่นหรือไม่

ด้านแพทย์หญิงประภาพรรณ  จันทร์นาม  ผู้อำนวยการโรงพยาบาลภูหลวง เปิดเผยว่า  เหตุการณ์นี้เป็นเหตุการณ์สำคัญของอำเภอภูหลวง ทำให้ทุกคนได้เรียนรู้ ไม่ว่าจะเป็นองค์กรเอง บุคลากรในโรงพยาบาล รวมทั้งตัวผู้ไลฟ์สดเองด้วย  ซึ่งเขาก็ไม่ได้มีอคติกับทางโรงพยาบาล และเป็นคนอำเภอภูหลวง เกิดที่นี่ โตที่นี่ เพียงแต่ไปทำงานอยู่ที่อื่นเท่านั้น  เมื่อแสดงความรับผิดชอบต่อการกระทำของตนเองแล้ว  และทราบว่า ตลอดเวลาหลังจากเกิดเหตุ พ่อและแม่ของเขาไม่สบายมาตลอด  ตนจึงเห็นว่าเขามีความกตัญญูต่อพ่อแม่ ถือว่าเป็นคนดีเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ทางโรงพยาบาลจึงให้อภัยกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น  ส่วนคดีความยังคงต้องให้ดำเนินไปตามกระบวนการ เพราะทางโรงพยาบาลได้ปักธงไว้แล้วว่าต้องกอบกู้ชื่อเสียงกลับมา  แต่คงไม่ต้องถึงกับลงโทษ ซึ่งเรื่องราวนี้ได้เผยแพร่ออกไปอย่างกว้างขวาง  ขอแค่ทุกสื่อได้กอบกู้ชื่อเสียงให้กับทางโรงพยาบาลภูหลวงแค่นั้นพอ 

เหตุการณ์ครั้งนี้ ทางโรงพยาบาลก็ต้องมาเรียนรู้ ปรับปรุงการทำงาน โดยเฉพาะการทำความเข้าใจกับประชาชนที่ถูกต้องเกี่ยวกับการแพทย์ฉุกเฉิน ให้ประชาชนเข้าใจว่าเราทำงานกันอย่างไร และทำอย่างไร ประชาชนถึงจะแจ้งเหตุให้เร็วที่สุด  ผู้อำนวยการโรงพยาบาลภูหลวงกล่าว.


x

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น