วันพุธที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563

ยายเก็บขยะยอมเข้าแจ้งความแล้ว ตร.ส่งฝากขังไอ้หื่นเข้าเรือนจำเลย เจอ 2 ข้อหาหนัก

 


จากกรณีที่นางสมัย (นามสมมุติ)  อายุ 78 ปี  อาชีพเดินเก็บขยะและของเก่าขาย  ถูกคนร้ายที่เป็นชายหนุ่มพยายามจะข่มขืน  เมื่อช่วงเวลา 19.54 น. วันที่ 23 พฤศจิกายน  2563  ที่ริมถนนราษฎร์อุทิศ  ใกล้วัดศรีภูมิ ชุมชนบ้านแฮ่ เขตเทศบาลเมืองเลย  โดยมีกล้องวงจรปิดหน้าบ้านประชาชนที่อยู่บริเวณนั้นบันทึกภาพเหตุการณ์ไว้ได้  ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ออกติดตามสืบหา เพื่อตามจับตัวคนร้ายมาดำเนินคดีเมื่อวานนี้

ต่อมาเมื่อช่วงเวลา 19.30 น.  วันที่ 24 พฤศจิกายน 2563   เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองเลย  ได้จับกุมคนร้ายรายนี้ได้แล้ว ทราบชื่อคือนายอมร  พุป้อง  อายุ 29 ปี  อยู่บ้านเลขที่ 189 หมู่ 12 ต.เกาะจันทร์  อ.เกาะจันทร์  จ.ชลบุรี  โดยก่อนถูกจับกุม มีพลเมืองดีเห็นชายลักษณะแต่งตัวและใบหน้าคล้ายคนร้ายเดินอยู่บริเวณสะพานแขวนข้ามแม่น้ำเลย สวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติ หน้าสำนักงานเทศบาลเมือง จึงได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.เมืองเลยมาควบคุมตัวไปไว้เพื่อดำเนินคดี

จากการสอบสวนทราบว่า  นายอมร เคยติดคุกมาแล้วในคดีเกี่ยวกับทางเพศ เมื่อปี 2552  หลังพ้นโทษออกมาก็กลายเป็นคนเร่ร่อน หารับจ้างทั่วไป มักจะเดินตระเวนขอเงินชาวบ้าน และอาศัยนอนตามสวนสาธารณะในเมืองเลย โดยยังให้การวกวน คล้ายคนสติไม่สมประกอบ ขณะถูกจับกุม เสื้อผ้ายังสวมชุดเดิมกับตอนที่ก่อเหตุ

ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อเวลาประมาณ 16.00 น. วันที่ 25 พฤศจิกายน 2563  นางสมัย (นามสมมุติ) ผู้เสียหาย  ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองเลยแล้ว 





ร.ต.อ.พศวัต จันทร์ดุ้งรอง พนักงานสอบสวนผู้รับแจ้งความ สภ.เมืองเลย เปิดเผยว่า  ได้ตั้งข้อหาแก่นายอมร ในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 276 ที่ระบุว่า ผู้ใดข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยขู่เข็ญด้วยประการใด ๆ โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยผู้อื่นนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ หรือโดยทำให้ผู้อื่นนั้นเข้าใจผิดว่าตนเป็นบุคคลอื่น ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สี่ปีถึงยี่สิบปี และปรับตั้งแต่แปดหมื่นบาทถึงสี่แสนบาท

นอกจากนี้ได้ตั้งข้อกล่าวหา ตามความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 278  ที่ระบุว่า ผู้ใดกระทำอนาจารแก่บุคคลอายุกว่าสิบห้าปีโดยขู่เข็ญด้วยประการใด ๆ โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยบุคคลนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ หรือโดยทำให้บุคคลนั้นเข้าใจผิดว่าตนเป็นบุคคลอื่น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสิบปี หรือปรับไม่เกินสองแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ขณะนี้ได้ส่งตัวผู้ต้องหาไปฝากขังต่อศาลจังหวัดเลย และเข้าไปอยู่ในเรือนจำแล้ว ร.ต.อ.พศวัตกล่าว.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น